การผ่าตัดครั้งที่สองผ่านไปด้วยดี
ผลเลือดออกมาไม่พบเชื้อเหมือนเดิม
เมื่อผลตรวจเลือดตรงกันถึง 2ครั้ง คุณหมอจึงเจาะเลือดเพื่อหาสาเหตุอื่น
ผลสรุปออกมาว่า แป้งติดเชื้อในกระแสเลือด
และให้กลับบ้าน หลังจากนอนรพ.นานถึง 2อาทิตย์ หมอให้ยามาทาน และนัดอีกทุกเดือนๆ
หลังจากนั้นแป้งก็กลับมาอยู่กับฉันที่ร้านเกมส์ต่อ
และฉันเป็นคนขับรถพาแป้งไปขอนแก่นทุกเดือนๆเพื่อไปรับยา
แป้งกินยาอยู่นานเกือบ 6เดือน ก้อนที่คอก็ไม่ยุบ
พ่อแป้งจึงตัดสินใจย้ายรพ. พาแป้งมารักษาต่อที่รพ.ศิริราช
มาศิริราชครั้งนี้ แป้งกลัวที่จะต้องนอนรพ.อีก
ฉันปลอบใจว่า ไม่ได้นอนหรอก ศิริราชเป็นรพ.ใหญ่คนเยอะไม่มีเตียงหรอก
แป้งก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก อย่างมากหมอก็นัดให้มาตรวจใหม่
วันแรกที่ไปรพ.ศิริราช หมอที่นี่ไม่ดูประวัติเดิมที่เคยตรวจมาจากที่อื่น
จับแป้งตรวจใหม่หมดทุกอย่าง เหมือนมาเริ่มรักษากันใหม่
หมอที่ศิริราชให้นอนโรงพยาบาล เพื่อตรวจอาการ
แป้งหน้าเสีย เพราะต้องนอนห้องรวม
ฉันบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่เป็นเพื่อน
คืนนั้น ยังไม่มีห้องว่าง แป้งต้องนอนอยู่บนเตียง (แบบที่เข็นได้)
พยาบาลให้นอนรอห้องว่างอยู่หน้าห้องประกันสังคม
นอกจากแป้งเล้ว ก็มีคนไข้อีกเป็นสิบที่นอนรอห้องว่างอยุ่ตรงนี้
ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะในห้องประกันสังคมมีหมอ พยาบาลเดินไปมาตลอดเวลา
พ่อแป้งอยู่เป็นเพื่อนแป้งจนถึงเกือบ 4ทุ่ม
แล้วกลับไปนอนที่โรงแรมแถวๆนั้น
ส่วนฉันโกหกพ่อแป้งว่าจะกลับไปนอนบ้านญาติแถวๆลาดพร้าว
และโทรไปโกหกแม่ฉันว่า ห้องรวมที่ศิริราชให้เฝ้าได้
แต่จริงๆแล้ว ฉันไม่ได้ไปไหนเลย หลังจากพ่อแป้งกลับไปแล้ว
ฉันบอกแป้งว่า จะไปนั่งเล่นนอนเล่น อยู่ตรงหน้าห้องจ่ายยา
อีกไม่กี่ชม.ก็เช้าแล้ว แป้งจะได้อุ่นใจว่ามีฉันอยู่ใกล้ๆ
ฉันเดินเลาะๆมาอีกตึกหนึ่ง ไปนั่งอยู่ตรงหน้าเค้าน์เต้อร์รับยา
มีญาติคนป่วยบางคน มาใช้ที่ตรงนี้นอน เหมือนที่ฉันกำลังจะทำ
แป้งคอยโทรมาหาเรื่อยๆ บอกว่าเป็นห่วงฉัน มันน่ากลัว
ฉันบอกไม่เป็นไรหรอก มีญาติคนป่วยเยอะ มีคนอยู่เป็นเพื่อนมากมาย
ฉันเลือกหาเก้าอี้ที่ว่างติดกัน 2ตัว เพื่อเหยียดขาและนอนลงไป
ด้วยความรู้สึกหลายอย่าง เสียงเจ้าหน้าที่ดังเป็นระยะๆ เพื่อเรียกชื่อคนมาจ่ายค่ายา
แทบไม่ได้หลับเลย จนเช้าต้องรีบลุกออกจากตรงนั้น
เพราะมีคนไข้มารอคิวรับบัตรตรวจกันตั้งแต่ตี 5
เช้าวันนั้นแป้งได้ย้ายเข้าไปนอนที่ตึกประกันสังคม เป็นห้องพิเศษรวม
มีคนป่วยอยุ่ประมาณ 4-5 คน แต่กั้นห้องเป็นสัดเป็นส่วน
ทำให้แป้งสบายใจขึ้นมานิดนึง เพราะแป้งกลัวมากที่จะได้นอนห้องรวม
แม่แป้งมาจากขอนแก่น เพื่อมานอนเฝ้าแป้ง
ยังไงแม่ลูกก็ตัดกันไม่ขาด ฉันเข้าใจดี
ช่วงเวลาแบบนี้ แป้งต้องการแม่ มากกว่าสิ่งอื่นใด
ที่ศิริราช แป้งได้อาจารย์หมอเป็นเจ้าของไข้
แป้งถูกตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เจาะเลือดไปตรวจทุกโรคที่หมอสงสัย
แป้งถูกส่งไปตรวจที่แผนกโรคเลือดโดยตรง
ครั้งนี้แป้งนอนรพ.นานอีกเช่นเคย
ที่แผนกโรคเลือด คุณหมอเจาะเลือด และผ่าเอาก้อนที่คอไปตรวจใหม่อีกครั้ง
ก็ไม่พบเชื้อมะเร็งแต่อย่างใด คุณหมอขอเจาะไขสันหลังตรวจ เพื่อผลที่แน่นอน
ฉันยืนรอแป้งอยู่หน้าห้อง ที่มีม่านปิดไว้ แต่ก็มีรูโหว่พอให้เห็นได้บ้าง
สิ่งที่ฉันเห็นคือ มันเหมือนเป็นแท่งเหล็กแหลมๆยาวๆ ขึ้นลงตามจังหวะ
แต่ไม่เห็นแป้ง เวลาผ่านไปนานเหมือนกัน แป้งก็ออกมา
ฉันถามว่า เจ็บมั๊ย แต่บอกว่า เสียวมากกว่า
หลังจากกลับไปที่ห้องแล้ว แป้งเอาแผลที่หลังให้ดู
มันเป็นเพียงรูเล็กๆๆรูหนึ่่งเท่านั้นเอง ถึงจะรูเล็กแค่นั้นแต่มันถูกแทงลงไปในเนื้อเรา
แป้งคงเจ็บมาก ฉันก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าอีกไม่นานคงได้กลับบ้าน
แล้วแป้งก็ได้กลับบ้านจริงๆ หมอนัดมาฟังผลเจาะไขสันหลังอีก 2อาทิตย์ต่อมา
ครั้งนี้แป้งนอนรพ.ไปอีก 1เดือนเต็มๆ
แม่แป้งกลับไปดูร้านที่ขอนแก่นต่อ ส่วนแป้งไปๆมาๆระหว่างบ้านแป้งกับบ้านฉัน
ถึงวันฟังผลไขกระดูก ฉันเป็นคนพาแป้งมารพ.
แป้งเข้าไปหาหมอข้างใน และเดินออกมารอข้างนอก
ฉันถามว่าผลว่างัย แป้งบอกว่า ไม่เห็นหมอว่ายังไง
ยังไม่ทันที่จะถามอะไรแป้งต่อ พยาบาลมาเรียกเรา2คนเข้าไป
พร้อมประวัติ และบอกให้ขึ้นไปให้ยา ชั้นบน
พยาบาลพูดว่า "ให้ยา" ฉันก็งง เหมือนกันว่าให้ยาอะไร
พอพาแป้งขึ้นไปชั้นบน หน้าห้องเขียนว่า "แผนกเคมีบำบัด"