Last Friends ค่าใช้จ่ายของคำว่าเพื่อน


สวัสดีจ้า

หายหน้าไปหลายวัน เนื่องจากติดภารกิจ เลยไม่ได้มาอัพ blog เลย
วันหยุดยาวหลายวันอย่างนี้ เืพื่อนๆ คงออกต่างจังหวัด หรือไม่ก็นอนพักผ่อนอยู่บ้านกัน
ไม่ว่าใครจะทำกิจกรรมอะไร ก็ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิตนะคะ

วันนี้มีข่าวคราวเกี่ยวกับหนังเรื่อง lastfriend มาฝากจากเวป manager ค่ะ





โลกนี้จำเป็นจะต้องมีละครโทรทัศน์ที่ว่าด้วยความรัก…ส่วนหนึ่งเพราะว่าแรงขับเคลื่อนของสังคมนี้มีความรักเป็นองค์ประกอบ

คนผลิตสื่อล้วนแต่รู้ดีว่า ความรักนั้นจะเป็นประเด็นที่ขายได้ง่ายที่สุดและเรียกแขกได้ดีที่สุด

แม้แต่ในเรื่องที่ไม่น่าจะมีความรักมาเกี่ยว คนทำสื่อก็จะต้องหาตัวละครมาให้กุ๊กกิ๊กเพื่อเพิ่มสีสันให้แก่ละครเหล่านั้น ศิลปะของการทำละครคุณภาพอยู่ตรงนี้เองนะครับว่า ทำอย่างไรจะทำให้เรื่องของความรักที่ใส่เข้ามานั้นมันไม่เน่าและให้อะไรกลับ ไปสู่คนดูด้วย

แต่หลายครั้งที่ความรักถูกเข้ามาแล้วทำให้เราต้องเหนื่อยชะมัดกับการดู เพราะรักในเรื่องที่ใส่เข้ามานั้นเป็นรักที่ทำให้เกิดทุกข์ขึ้นทั้งสิ้น… อาทิเช่น ทุกข์เพราะเป็นรักต้องห้าม ทุกข์เพราะเป็นรักที่รักแล้วผิดไปจากที่หวัง ทุกข์เพราะรู้ว่าเมื่อรักแล้วต้องเจ็บปวดแน่ๆ หรือไม่กล้ารักเพราะความผิดปรกติบางอย่างในร่างกาย ฯลฯ

ประเด็นของรักที่ทำให้เกิดทุกข์เหล่านี้ ส่วนมากผู้สร้างมักจะเลือกแค่ประเด็นเดียวแล้วขยายออกให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา

แต่คงมีไม่บ่อยนักที่ผู้สร้างจะยกทุกประเด็นเหล่านี้มาใส่รวมกันแล้วทำเป็นละครออกมาให้ดู

ผม เพิ่งจะเจอละครที่ว่านี้ในเรื่อง Last Friends ละครที่สร้างโดยสถานีโทรทัศน์ฟูจิ ซึ่งระบุไว้ในคำอธิบายของละครเรื่องนี้อย่างเป็นทางการว่าเป็นเรื่องของ มิตรภาพ สะท้อนปัญหาของผู้คนในสังคมโดยเฉพาะเรื่องของเกย์และเลสเบี้ยน ละครได้เรตติ้งสูงถึง 17.7 พร้อมกับกวาดรางวัลละครโทรทัศน์มาได้เพียบ

ละครเรื่องนี้ระดมดารามากมายในระดับเกรด เอ โดยเฉพาะใครที่เป็นแฟนของ ‘จูริ อูเอโนะ’ จากเรื่อง Nodame Cantabile ก็คงจะไม่พลาด ที่สำคัญคุณจะพบว่าพรสวรรค์ในการแสดงของดาราสาวอายุ 20 เศษๆคนนี้อยู่ในขั้นสุดยอดทีเดียว เธอกวาดรางวัลจาก 3 สถาบันหลักในฐานะดารานำ ขณะที่ตัวนำอีกตัวคือ ‘นางาซาว่า มาซามิ’ ก็เคยได้รับชื่อว่าเป็นสาวที่ยิ้มสวยที่สุดมาแล้ว ตัวอื่นๆ ก็โดดเด่นไม่แพ้กันนะครับ พล็อตเรื่องนั้นว่าด้วยความรักและเพื่อน...แต่เป็นความรักต้องห้าม และส่วนหนึ่งก็เป็นเพื่อนต้องห้ามคู่ขนานกันไป

Last Friends เป็นเรื่องของรูกะ ทอมสาวนักซิ่งมอเตอร์ครอสที่หวังจะแข่งชนะผู้ชายและเป็นแชมป์ญี่ปุ่นให้ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ รูกะ ‘แอบ’ รักเพื่อนสาวสมัยเรียนมัธยมที่ชื่อมิจิรุ ความสัมพันธ์นี้จบลงเพราะแม่ของมิจิรุ คงระแคะระคายเรื่องนี้จนกลัวขี้ปากชาวบ้าน เธอก็เลยพาลูกย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น

หลายปีผ่านไปทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มิจิรุซึ่งมีอาชีพทำผมได้มีรักแล้วกับชายหนุ่มแสนดีที่ชื่อ โซซุเกะ ( แสดงโดย Nishikido Ryo) เจ้าหน้าที่ของศูนย์ดูแลเยาวชน พันธะของความเป็นเพื่อนและพันธะของความรักที่รูกะมีก็น่าจะจบลงอย่างง่ายๆ ...แต่มันไม่อย่างงั้นซิครับถ้าโซซุเกะที่แสนดีไม่ ‘กระทืบ’ แบบโคตรโหดและโคตรโรคจิตใส่มิจิรุของเขาตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าไปใช้ชีวิต อยู่ด้วยกันในคอนโดของฝ่ายชาย...

ไม่ว่าจะเพราะเป็นเพื่อนหรือเป็นเพราะคนที่ตัวเองรักอยู่โดนทำร้าย รูกะจึงต้องปกป้องและดูแลมิจิรุอย่างเต็มที่ พร้อมกับลากเอาเพื่อนๆ ในบ้านเช่าของรูกะมาร่วมรับรู้และดูแลโศกนาฏกรรมแห่งรักที่ซ่อนเร้นนี้ด้วย กัน

เรื่องนี้เหนื่อยครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ทอมใจโหดปะทะกับผัวเพื่อนจอมซาดิสต์ แต่เพราะสภาพสังคมญี่ปุ่นนั้นยังไม่รับกับคำว่า “เบี่ยงเบนทางเพศ” เหมือนอย่างบ้านเรา การต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่รูกะรักจึงเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งต้องปกปิดสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ให้สังคมรับรู้ ทั้งต้องปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงต่อมิจิรุ แถมต้องอยู่ในกรอบของกฏหมาย ต้องไม่คิดใช้ทางลัดในการแก้ปัญหา (เช่นลากปืนไปยิงผัวโหดเพื่อจบเกมนี้)

(ขณะที่ผมนั่งดูเรื่องนี้อยู่ ผมอดจะนึกเปรียบเทียบกับข่าว ‘ป๋าต็อบกับน้องปีใหม่’ ไม่ได้ เพราะนอกจากแกจะมีความสุขจากการได้ฉลองขึ้นปีใหม่ทุกวันแล้ว แกยังอยู่ในสังคมที่ไม่ได้ต่อต้านเรื่องหญิงรักหญิงนี้เท่าไหร่)

แต่ปมของความรักยังไม่ใช่แค่นั้นเพราะคนที่รูกะลากเข้ามาสู่วังวนนี้ ล้วนแล้วแต่มีปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น ทาเครุ (แสดงโดย Eita) เพื่อนชายของเธอก็ยังสับสนว่า เขาเป็นชายหรือเป็นเกย์กันแน่ เพราะเขารู้สึกรักและอยากปกป้องรูกะ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวการมีสัมพันธ์กับเพศหญิง ขณะที่เอริ (แสดงโดย Mizukawa Asami) เพื่อนอีกคนในบ้านเช่าเป็นแอร์ที่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่ม แต่ไม่พร้อมที่จะมีความรักกับใครทั้งสิ้น และสุดท่านโซซุเกะผัวจอมซาดิสต์...มันก็ป่วยได้ใจเอามากๆ แถมยังโหดชนิดคนที่ดูเรื่องนี้อาจจะรู้สึกโชคดีที่ชีวิตหนึ่งของเราไม่ได้ เจอคนแบบนี้เลย

ละครเรื่องนี้ดูแค่พล็อตอาจจะรู้สึกเหมือนผมก็คือเหนื่อย (แล้วก็เหนื่อยจริงๆ เสียด้วยกับการชม เพราะมันเร้าใจกันตลอดทุกนาที ) หรือบางคนที่เป็นพวกรังเกียจเกย์หรือทอมอาจจะไม่รู้สึกว่าน่าจะหามาดู แต่เชื่อผมเถอะว่า อย่าพลาดเรื่องนี้ครับ โดยเฉพาะการแจกแจงรายละเอียดของตัวละคร แนวคิดของตัวละครนั้นจะทำให้คุณเข้าใจและเห็นใจเพศที่เบี่ยงเบนมากขึ้น คุณจะมองเห็นความทุกข์ของเขาที่ต้องเป็น ภายใต้ภาพลักษณ์หรือหน้ากากที่เข้มแข็งเหล่านั้น คุณจะพบว่าพวกเขาก็ไม่ต่างไปจากคนทั่วๆ ไปที่มีรักโลภโกรธหลง แต่ที่เหนื่อยกว่าและกดดันกว่าก็เพราะเขาจะต้องอยู่รอดในสังคมให้ได้ท่าม กลางสายตาของคนในสังคมมองว่าเขาไม่ปรกตินี่แหล่ะ

ละครเรื่องนี้ควรถูกขนานนามว่า เป็นละครสร้างสรรค์สังคมแท้จริง เพราะผมเชื่อว่าถ้าคุณดูแล้วทัศนคติของคุณที่มองเกย์ ทอม ดี้ จะเปลี่ยนไปแน่ๆ ครับ

แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้ยังฉายภาพของความซับซ้อนของความเป็นเพื่อนที่ผมชอบมากๆ เรื่องหนึ่งทีเดียว อย่างน้อยมันทำให้เราคิดถึงคำว่า “เพื่อน” นั้นแท้จริงแล้วมันมีค่าใช้จ่ายในความสัมพันธ์นี้อย่างสูงเหลือเกิน ยิ่งถ้าคุณยึดว่าเขาเป็นเพื่อนแท้ ค่าใช้จ่ายนั้นอาจจะหมายถึงชีวิตทั้งชีวิตของเขาเหล่านั้น

ดูเรื่องนี้แล้วหลายคนคงย้อนกลับมา สำรวจว่าแล้วเพื่อนของเราที่เราเรียกมันว่าเพื่อนนั้นอยู่ใกล้เคียงกับคำว่า เพื่อนแท้ได้หรือเปล่า

คำว่าเพื่อนในซีรีส์เรื่องนี้ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ได้อีกมาก มาย โดยเฉพาะมันเป็นข้ออ้างที่คนในเรื่องนี้ใช้เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับความรักที่ ตัวเองต้องการ ขณะเดียวกันคำว่าเพื่อนก็เป็นจุดเริ่มของความทุกข์เช่นกัน เพราะ ในพันธะแห่งเพื่อนนั้นมันได้ก่อกำแพงให้ความรักที่ซ่อนกันอยู่ในใจนั้นไปได้ ไม่ถึงจุดที่พวกเขาหวัง

บอกตามตรงว่า คำว่าเพื่อนนี้ศักดิ์สิทธิ์ครับ แถมยังเป็นหนึ่งในคำบอกเลิกที่ชะงัดที่สุดอย่างหนึ่งทีเดียว(ดีกว่าคำว่า เธอดีเกินไป) เพราะถ้าคุณกำลังจีบใครอยู่ แล้วอีกฝ่ายเขาบอกว่า เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ คุณจะรู้ได้โดยทันทีว่าอนาคตแห่งความรักของคุณมันห่างออกไปแล้ว

ผมชอบบทสรุปของหนังเรื่องนี้ (แอบกระซิบว่า...มันโคตรจะช็อกคนดูเลย!!) ที่เขาบอกว่า สุดท้ายความรักและความสัมพันธ์ของคนทุกคนในบ้านนี้ไม่ได้ถูกระบุไปว่า ใครจะเป็นสามี ใครจะเป็นภรรยา ใครจะเป็นพ่อ ใครจะเป็นแม่ เพราะสุดท้ายคำเรียกแทนว่าพ่อหรือ แม่ หรือสามี หรือภรรยา จริงๆ มันไม่มีความหมายและความสำคัญอะไรเท่ากับการที่คุณดูแล ‘คนสำคัญ’ ของคุณได้ดีแค่ไหนมากกว่า? หรือ คุณดูแลคนสำคัญของคุณด้วยความรักแบบไหนกันแน่? และสุดท้าย คุณทุ่มเทและเสียสละอย่างที่สุดแล้วหรือยังเพื่อคนสำคัญของคุณ?

ลองดูข่าวสารรอบๆ ตัวเราตอนนี้ซิครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อข่มขืนลูก สามีซ้อมเมียปางตายเพราะขอเงินแล้วไม่ให้ ภรรยาแอบไปคบกับชู้แล้วหลอกต้มผัวหมดตัว ลูกทรพีซ้อมแม่เพราะอยากได้มอเตอร์ไซค์กับมือถือ ฯลฯ

เมื่อนึกขึ้นมาแล้วคำว่า พ่อ แม่ ผัว เมีย แฟน...มันไม่มีความหมายอะไรเลย!!

credit: http://www.manager.co.th