พ่อถามว่า"เป็นทอมดี้กันหรอ"?

หลังจากนั้น ในทุกๆเย็นหลังกลับจากเรียน
ฉันกับหยุยจะออกมาตีแบดกัน จนถึงมืดค่ำ
เสร็จแล้วก็จะออกไปดูหนังสือการ์ตูนที่ร้านหนังสือ
และแวะซื้อนมกลับเข้าบ้าน เป็นอย่างนี้อยู่ทุกวัน

เรา 2คน สนิทกันอย่างรวดเร็ว
หลายต่อหลายครั้งที่ฉันจะไปกินข้าวเย็นที่บ้านหยุย
หยุยรู้ว่า ฉันไม่กินผัก ชอบกินแต่ไก่ทอด
หยุยก็จะบอกให้แม่ทำกับข้าวเผื่อฉัน

ฉันจะไปขลุกอยู่ที่บ้านหยุยทุกวันหลังเลิกเรียน
ถ้าวันไหนไม่ตีแบด ก็จะไปนั่งคุยกันในบ้าน
หยุยจะเล่าเรื่องเพื่อนที่รร. หยุยบอกว่า เพื่อนที่ห้องรู้จักฉันด้วย
ฉันถามว่า รู้จักได้งัย หยุยบอกว่า หยุยไปเล่าเรื่องฉันให้เพื่อนฟัง
ฉันก็ถามว่า เล่าว่างัย ทำไมถึงเล่า
หยุยบอกว่า ก็หยุยคิดถึง ก็เลยเล่าให้เพื่อนฟัง
ว่ามีพี่คนนึงอยู่ข้างบ้าน สนิทกันมาก ประมาณนี้

ความสัมพันธ์ของเรา 2คน ดำเนินมาเรื่อยๆ
ยิ่งนานวันขึ้น ฉันก็รุ้ความรุ้สึกตัวเอง ว่าคิดกับหยุยเกินน้องแน่ๆ
แต่ฉันไม่แน่ใจ ว่าหยุยคิดกับฉันยังไง ฉันไม่อยากเข้าข้างตัวเอง
แต่ก็มีเหตุการ์หลายต่อหลายอย่าง ที่น่าทำให้คิดว่า หยุยก็ชอบฉันเ่ช่นกัน

เช่น เราจะออกมายืนคุยกันที่บนระเบียงห้องทุกคืน
อย่างที่บอกไปว่า บ้านของเราอยู่ติดกัน
ห้องนอนฉัน จะมีระเบียงยื่นออกไป ซึ่งติดกับระเบียงขั้นบนบ้านหยุย
คืนหนึ่ง ฉันได้ยินเสียงหยุยเรียกฉัน แว่วๆมาจากข้างนอก
จึงเปิดประตูห้องออกไป เห็นหยุยยืนยื่นหน้าเข้ามาหา
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เหมือนเป็นการรู้กัน ประมาณ 2ทุ่ม หยุยจะออกมาเรียก
วันไหนหยุยไม่ออกมาเรียก เหมือนขาดอะไรไป

เราออกไปคุยกันพร้อมกับแลกไดอารี่ที่เขียนถึงกัน
มันไม่ได้เป็นสมุดนะ มันเป็นกระดาษลายน่ารักๆๆ
ครั้งแรก หยุยเป็นคนเขัยนให้ฉันก่อน ฉันก็งงๆ ว่าหยุยให้อะไร
หยุยบอกว่า อ่านแล้วตอบด้วยนะ
หลังจากนั้น ก็แลกกันอ่านทุกวัน

แล้ววันหนึ่ง หลังจากที่เราออกมาคุยกันที่ระเบียงเหมือนทุกคืน
หยุยมาเรียกด้วยเสียงเบาๆๆ
พร้อมกับบอกว่า เมื่อวานนี้พ่อแอบเห็นและได้ยินที่เราออกมายืนคุยกัน
พ่อถามว่า " เป็นทอมดี้" กันหรอ ?